หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบาย


 ศาสตราจารย์ ดร. สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมามอบนโยบาย ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด จำนวน 220 คน พร้อมทั้งแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมี นายดิลก พจน์พงษ์ ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 1 ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมพระราชธีราภรณ์และห้องประชุมหนองประจักษ์ สพป.อุดรธานี เขต 1 เมื่อ 5 พ.ค.55
                  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวเน้นในเรื่องของนโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับทุกประเภท โดยเน้นเป้าหมายคือนักเรียนเป็นศูนย์กลาง การสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม การปฏิรูปครูเพื่อยกฐานะครูและวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง การพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้การศึกษาทัดเทียมกับนานาชาติ นโยบายเรียนดีอย่างมีคุณภาพเป็นอย่างไร เรื่อง คอมพิวเตอร์แท็บแล็ต ทุนการศึกษา 1 ทุน 1 อำเภอ พร้อมทั้งได้เน้นในเรื่องของการบริหารงานที่โปร่งใสของสำนักงานและคณะกรรมการ ในโอกาสเดียวกัน ผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้แทน ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัด ได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับโอกาสความก้าวหน้าในตำแหน่ง แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
              ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ๑ ใน ๑๘ นโยบายหลักด้านการศึกษาของรัฐบาล ที่ได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนของ ศธ. คือ การยกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประชาชนให้จบมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) ได้ภายใน ๘ เดือนอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ประชาชนอายุ ๑๘ ปีขึ้นไปที่ยังไม่สำเร็จชั้น ม.๖ ที่มีจำนวนกว่า ๑๐ ล้านคนได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา โดยสามารถเทียบโอนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์จากการทำงานในสาขาอาชีพของตน เข้าสู่การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับสูงสุด (ม.๖) ได้ภายในระยะเวลา ๘ เดือน ซึ่งผู้จะมาขอเทียบระดับการศึกษานั้น จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์ และต้องไม่เป็นนักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษา ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ มีความชำนาญในงานอาชีพ มีประสบการณ์ในอาชีพและมีหลักฐานการประกอบอาชีพที่ชัดเจน ซึ่งหมายรวมทั้งพระภิกษุที่สอบผ่านนักธรรมตรี หรือผู้นำทางศาสนาต่างๆ ก็สามารถมาเทียบระดับการศึกษาได้เช่นกัน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ภาพกิจกรรม